iPhone vs. BlackBerry

[Update 5 ม.ค. 2554] เผื่อใครหลงเข้ามาที่หน้าเว็บนี้อีก ผมได้เขียนบล็อกตอนใหม่ที่อัพเดตเพิ่ม และเทียบกับ OS มาขึ้นแล้วที่ iPhone vs BlackBerry vs Android vs Windows Phone 7 นะครับ

ในยุคสมัยนี้แล้ว ใครไม่รู้จัก iPhone จากค่าย Apple และ BlackBerry นี่ถือว่าเชยชะมัดครับ ผมเองยังไม่อยากตกยุค ก็เลยต้องหา iPhone มาใช้ซักเครื่องเหมือนกัน… ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสได้สัมผัสเล่นๆ กับ BlackBerry อยู่สองสามครั้ง… ในฐานะ geek ด้านอุปกรณ์ไฮเทคประจำกลุ่มเพื่อนๆ เลยถูกถามบ่อยครั้งว่า ระหว่าง iPhone กับ BlackBerry ถ้าเขาจะซื้อ จะซื้ออะไรดีกว่ากัน… หลายคนเชื่อว่า BlackBerry ดีกว่า iPhone บางคนก็เห็น iPhone ดีกว่า BlackBerry แล้วใครล่ะที่เข้าใจถูกต้อง?

ผมขอตอบว่าถูกทั้งคู่ครับ เพราะต่างยี่ห้อก็มีข้อดีที่แตกต่างกันไปครับ… อเมริกาเขาฮิต BlackBerry กันมาก ในขณะที่แม้ iPhone ก็ฮิตกันไม่หยอก แต่คนกลับเอามาใช้รับส่งอีเมล์กับข้อความน้อยกว่า ก็ไม่แปลกอะไรหรอกครับ เพราะว่าที่โน่นเขาคิดโปรโมชั่นด้านการรับส่งข้อมูลแพงมาก

Plan ค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไปตามเขตที่คุณอยู่ด้วย

ดังนั้นใครที่ใช้ BlackBerry ก็จะได้เปรียบ เพราะเจ้านี่มีกระบวนการบีบอัดข้อมูลที่ดีกว่า ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการรับส่งอีเมล์ต่อครั้งถูกกว่าครับ ซึ่งในกรณีนี้ ในเมืองไทยเอามาใช้เป็นข้อได้เปรียบไม่ได้ เพราะว่าโปรโมชั่นของ TrueMove นั้น ให้ใช้ EDGE/3G แบบ Unlimited ในราคาแค่ 599 บาท/เดือน หรือคุณจะใช้ค่าย DTAC/AIS ก็ประมาณ 999 บาท/เดือน (ในขณะที่ AT&T ในอเมริกานั้น คุณต้องจ่าย $129.99 หรือ 4,300 กว่าบาท!) ผู้ให้บริการในบ้านเราก็เลยต้องเปิดโปรโมชั่นพิเศษ ส่งข้อความหากันระหว่าง BlackBerry ด้วยกันฟรีไงครับ และแน่นอน BlackBerry ก็มีโปรโมชั่นเน็ตไม่จำกัดเหมือนกัน

แต่สำหรับผมแล้ว ผมว่าหากเรามีเน็ตแบบไม่จำกัด แถมเป็น EDGE และโดยเฉพาะ 3G ด้วยแล้ว ผมว่าใช้ iPhone ดีกว่าเยอะครับ เพราะว่า iPhone นั้นมีความสามารถหลากหลาย ทั้งเรื่องของการใช้งานด้านมัลติมีเดีย ดูหนังฟังเพลง หรือแม้แต่เล่นเกมส์ต่างๆ

บราวเซอร์ใน iPhone เป็น Safari ซึ่งมีความสามารถเทียบเทียบบราวเซอร์ของพีซี (เว้นแต่เปิด Flash ไม่ได้)

ข้อควรระวังอีกอย่างในการเลือกใช้ iPhone หรือ BlackBerry สำหรับผู้บริหารก็คือ การเชื่อมต่อกับอีเมล์เซิร์ฟเวอร์ ในกรณีที่ใช้ Microsoft Exchange Server ครับ หากเป็นมือถือที่เป็น Windows Mobile หรือ iPhone ละก็ เรื่องการเชื่อมต่อจะไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะทั้งสองประเภทนี้ได้เตรียมการเชื่อมต่อมาเรียบร้อยแล้ว แต่หากเป็น BlackBerry ละก็ เนื่องด้วยเหตุผลบางประการ ในคุณสมบัติบางอย่างของตัว BlackBerry เอง ทำให้มันต้องมีการติดตั้งโปรแกรม BlackBerry Enterprise Server (ในกรณีที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 30 คน) หรือ BlackBerry Professional Software Express (ในกรณีที่มีผู้ใช้งาน 1-30 คน) ที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ด้วย (จะเป็นตัวเดียวกัน หรือคนละตัวกับ Exchange Server ก็ได้) นั่นเลยทำให้องค์การของคุณต้องเสียค่าลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้นอีก ในขณะที่ iPhone นั้น ไม่มีปัญหาในการเชื่อมต่อกับ Exchange Server แต่อย่างใด

ความสามารถในการเชื่อมต่อกับ Microsoft Exchange Server เป็นความสามารถหลักของ iPhone อยู่แล้ว

ในขณะเดียวกัน Apps ต่างๆ ที่มีอยู่ใน iPhone ก็มากเพียงพอที่จะใช้ในแวดวงธุรกิจ แม้แต่โปรแกรมออฟฟิศต่างๆ (เช่น Word และ Excel) ซึ่งก็มีความสามารถที่เพียงพอในการทำงานพื้นฐานได้

ส่วนเรื่อง GPS นี่ผมไม่อยากเอามาพูดถึง เพราะแม้ว่า iPhone จะมาพร้อมกับ A-GPS และใช้ Google Map (หรืออีกทางเลือกคือ Longdo ของเว็บ http://www.longdo.com/) แต่หากปราศจากซึ่งสัญญาณมือถือ และ EDGE/3G แล้วละก็ (และคุณก็เอาแน่เอานอนกับสัญญาณมือถือกับอินเตอร์เน็ตของ TrueMove ไม่ได้ร้อก) คุณก็พึ่งพา iPhone นำทางไม่ได้หรอกครับ ถ้าจะใช้ GPS ผมแนะนำให้ซื้อต่างหากเลยดีกว่า… และนั่นก็ทำให้ BlackBerry ไม่ได้เสียเปรียบ iPhone เท่าไหร่นัก

ดังนั้นหากจะให้ผมฟันธงแล้ว ผมขอเลือกที่จะตอบคำถามของเพื่อนๆ ของผมว่า “iPhone กับ BlackBerry อันไหนดีกว่ากัน?” ผมคงต้องขอตอบ โดยย้ำอีกครั้งว่า คำตอบของผม จะใช้เฉพาะกับในประเทศไทย ภายใต้เงื่อนไขว่า iPhone และ BlackBerry มีโปรโมชั่นอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันครับ (คือ Unlimited EDGE/3G)

• หากคุณนิยมเล่นแชท รับส่งข้อความพวก SMS และไม่ชอบ Virtual keyboard (หมายถึง แป้นพิมพ์เสมือน ที่จะแสดงออกมาบนหน้าจอทุกครั้งเวลาที่จะพิมพ์) ผมแนะนำให้เลือก BlackBerry และนี่แหละ ที่เป็นเหตุที่ทำให้วัยรุ่นไทยนิยมใช้ BlackBerry
• แต่หากคุณชอบใช้งานด้านมัลติมีเดีย เล่นเกม ท่องเว็บ ผมแนะนำว่าใช้ iPhone จะดีกว่า
• แต่หากคุณมีเงินหาพอ… ลองคิดถึงคู่ผสมอย่าง BlackBerry + iPod Touch หรือ BlackBerry + iPhone ก็ได้นะครับ ผมก็เห็นอยู่ถมเถไป สำหรับเทรนด์แบบนี้