กาฝากกับความแรงคูณสอง รีวิว Samsung Galaxy SII ภาคปิดท้าย

และแล้วก็ถึงเวลาที่ผมควรจะกล่าวอะไรปิดท้ายการรีวิว Samsung Galaxy SII นี้แล้วครับ ภาคนี้จะไม่ยาวยืดมาก เพราะว่าน่าเสียดายที่ตัว Samsung Galaxy SII ที่ผมได้มานั้นใช้ ROM เวอร์ชันทดสอบ และใช้ CPU Exynos ความเร็ว 1GHz เท่านั้น (ตามสเปกจริงควรเป็น 1.2GHz) แต่หากได้อ่านในตอนแรกไปแล้ว ก็จะเห็นว่าคะแนน Quadrant Advanced ได้มากถึง 35xx คะแนนเลยทีเดียว แล้วถ้าสเปกเป็น 1.2GHz ย่อมต้องแรงขึ้นอีกเป็นไหนๆ

สนนราคาของ Samsung Galaxy SII จะเป็นเท่าไหร่นั้น ทาง Samsung ยังไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่จากการที่เขามาขายราคาพิเศษให้กับ AIS Serenade เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมาในราคา 16,900 บาท และมีการแอบ(จงใจ?!?)ทำราคาหลุดออกมาให้เหล่าบล็อกเกอร์ได้เห็นแพลมๆ ในเอกสาร ในราคา 19,900 บาทแล้ว ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า เจ้า Samsung Galaxy SII นี้จะเปิดตัวที่ 19,900 บาท … แต่ที่แน่ๆ คงต้องรอดูในตอนงาน Thailand Mobile Expo 2011 วันที่ 2-5 มิถุนายน 2554 ที่จะถึงนี้

เรื่องราวอันมีสาระของ นานาสาระกับนายกาฝาก สนับสนุนโดย

• Dell Thailand : The power to do more ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ โน้ตบุ๊ก อันดับต้นๆ ของโลก จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนี้วางรากฐานในไทยชัดเจนขึ้นแล้ว ด้วยผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน Dell Streak 5 และเร็วๆ นี้เราคงจะได้เห็น Dell Venue สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android และแท็บเล็ตขนาด 10.1” … ติดตามข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับ Dell ได้ที่ http://www.ilovedell.com
• กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย (Twitter: @AdeccoThailand) บริษัทผู้ให้คำปรึกษาและบริการด้านทรัพยากรบุคคลชั้นนำของโลก มาร่วมสนุกกับกิจกรรม ดาวน์โหลด Adecco App สำหรับสมาร์ทโฟนของคุณ ไม่ว่าจะเป็น iPhone, BlackBerry หรือ Android พร้อมลุ้น iPad 2 16GB WiFi อ่านรายละเอียดที่ http://bit.ly/hBhzsm
• i-mobile 3GX สปีดล้ำแบบ 3G ตัวจริง กับ 3 เหตุผลที่คุณควรเลือกใช้ 1) ความเร็วสูงสุด 7.2Mbps 2) เป็นผู้ให้บริการที่มียอดผู้ใช้บริการสูงสุดในกลุ่ม MVNOs ของ TOT3G และ 3) บริการหลากหลาย ทั้งซิมเติมเงิน และซิมรายเดือน พร้อมแพ็กเกจมากมาย สนใจรายละเอียด คลิกเลย

เอาละครับ มาเข้าเรื่องราวของเรากันต่อได้เลย

คุณภาพของกล้องดิจิตอล และกล้องวิดีโอ

โดยส่วนตัว ผมชอบคุณภาพของกล้องดิจิตอลของ Samsung Galaxy S เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมมองว่าทั้งคุณภาพของรูปถ่าย และลูกเล่น มันเหลือเฟือจริงๆ (แต่ตอนนั้นผมจะบอกเพื่อนๆ ทุกคนว่า กล้องน่ะดี แต่ ROM มันไม่ดี เลยทำให้ไม่เหมาะกับการใช้เป็น Smartphone หรือถ้าจะใช้จริง ต้องหา ROM นอกใช้)

ดังนั้นผมก็เลยค่อนข้างที่จะคาดหวังอะไรต่อมิอะไรจาก Samsung Galaxy SII มากพอสมควรละครับ ซึ่งเมื่อเปิด Camera App ของ Samsung Galaxy SII ขึ้นมาแล้ว ก็รู้สึก OK ทันที เพราะ UI ของมันบอกชัดเจนเลยว่า Samsung ได้มีการปรับปรุง Camera App ไปพอสมควร … แน่นอนว่า คุณสมบัติสุดโปรดของผมคือ Tap-to-Focus ก็ยังมีอยู่ครับ

Interface ของ Camera App ของ Samsung Galaxy SII นี่ใกล้เคียงกับกล้องดิจิตอลมากทีเดียว ในส่วนของ Settings นั้น สามารถปรับค่าต่างๆ ได้มากมาย จะตั้งเวลาถ่ายก็ได้ เปิดปิดแฟลชก็ได้ โหมดถ่ายพาก็มีหลายแบบ โฟกัสก็เลือกแบบ Auto Focus/Macro และ Face Detection ได้

จุดที่ผมว่าถ้ามีละก็จะดีมากเลย ก็เห็นจะเป็นปุ่มชัตเตอร์จริงๆ ละครับ … ทั้งๆ ที่ตัวเครื่องด้านขวายังมีพื้นที่เหลือ แต่ Samsung ก็เลือกที่จะใช้ Soft Key เป็นชัตเตอร์สถานเดียว

ด้านคุณภาพของรูปถ่ายเป็นยังไงนั้น อยากให้ดูด้วยตาของทุกท่านเองมากกว่าครับ ก็ดูตามนี้เลย

ด้านกล้องวิดีโอนั้น มีอะไรที่ชวนให้เซ็งนิดหน่อย คือ มันดันไม่มีคุณสมบัติ Tap-to-Focus ครับ มันเป็น Auto Focus เฉยๆ แต่ด้วยอานิสงส์จากสเปกแรงๆ ขนาดนี้ เลยทำให้การประมวลผลภาพทได้ดี และรวดเร็ว การปรับสภาพแสง และ Auto Focus ทำได้เร็วมากทีเดียว … ลองดูผมรีวิวกล้องด้านล่างนี่ได้ครับ (ถ่ายที่ความละเอียด 480p)

แน่นอน ด้วยสเปกที่เหลือเฟือขนาดนี้ ทำให้ Samsung Galaxy SII สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด Full HD ได้ครับ … ใช่ครับ Full HD 1080p ไม่ใช่แค่ HD 720p และแน่นอนว่าขนาดไฟล์ใหญ่มหากาฬเลยทีเดียวเชียวแหละครับ ถ้าไม่เอามาให้ดูว่าคุณภาพของภาพนั้นดีมากน้อยเพียงใด ท่านผู้อ่านก็คงจะเซ็ง งั้นดูนี่เลย

โดยภาพรวมแล้ว ในฐานะบล็อกเกอร์ Samsung Galaxy SII นี่ คุณภาพของกล้องสามารถเอาไว้ถ่ายภาพตอนเที่ยวแทนกล้องดิจิตอลแบบ Compact ได้เลย แถมจะเอาไว้ถ่ายภาพรีวิวพวก Gadget ของผมก็ได้สบายๆ ด้วย … แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการถ่ายวิดีโอเพื่อรีวิว ผมว่ายังไม่ตอบสนองความต้องการเท่าไหร่ แต่ถ้าถ่ายเพื่อเก็บความทรงจำโน่นนี่ ผมว่า OK นะครับ โดยเฉพาะถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p ได้เนี่ย

อ้อ! ที่สำคัญ งวดนี้ปัญหาเรื่องเสียงที่เป็น Noise เยอะแยะเวลาถ่ายวิดีโอที่ผมเคยเจอตอน Samsung Galaxy S นี่ ดีขึ้นมาเยอะมากเลยทีเดียวอันนี้ต้องขอชม

เล่นไฟล์มัลติมีเดีย

ซีพียูระดับ Dual-core แบบนี้ การเล่นไฟล์หนังความละเอียด 1024×768 พิกเซลของผมทำได้สบายๆ มากเลย … ก็แหม นะ ใช้แค่ Qualcomm Scorpion 1GHz (Adreno 205) ก็เล่นไฟล์ระดับ HD ได้สบายๆ แล้ว การทดสอบด้วยไฟล์หนังแบบ 720p เนี่ย ดูถูก Samsung Galaxy S ไปหน่อยแล้ว … แต่พอผมพยายามจะเอาไฟล์หนังแบบ Full HD 1080p มาเก็บลงในเครื่อง ก็ต้องพบว่ามันไม่สามารถทำได้ เพราะไฟล์ขนาด 9GB มันใหญ่เกินไปที่ File System ของ Samsung Galaxy S จะรับได้ ดังนั้นแม้ว่าจะมี Internal Storage ถึง 16Gb แต่ก็ไม่สามารถ Copy ไฟล์แบบนี้มาลงได้

การเล่นเกมบน Samsung Galaxy SII

คงเพราะผมใช้ Samsung Galaxy SII รุ่นทดลองมั้ง เลยทำให้ผมไม่สามารถดาวน์โหลดเกมที่ผมซื้อไว้บน Android Market ได้นอกจาก Asphalt 5 อ่ะ แต่ถ้าดูจากผลการทดสอบประสิทธิภาพแล้ว ก็ต้องบอกว่ามันไม่น่าจะมีปัญหากับเกม 3D ใดๆ ณ ปัจจุบัน และในอนาคตอันใกล้เลยครับ

ตอนนี้ก็ดูวิดีโอ Asphalt 5 ไปพลางๆ ก็แล้วกันครับ

จริงๆ แล้วที่ผมมองว่าจะที่มันจะเป็นประเด็นจริงๆ นั้น มันน่าจะเป็นเรื่องของ

• การหาเกมที่สามารถดึงประสิทธิภาพของการทำงานของเจ้า Exynos นี่มาได้อย่างเต็มที่มากกว่า เพราะจนปัจจุบันนี้ เกมทั่วไปที่ออกมาบน Android นั้น ใช้แค่ GPU ระดับ Adreno 205 หรือถ้าเป็นเกมที่ใช้ Unreal Engine อย่าง Dungeon Defenders: Frist Wave นั้น แค่ PowerVR SGX540 (ของ Samsung Galaxy S) ก็เหลือๆ แล้วครับ
• จากผลการทดสอบต่างๆ ชี้ให้เห็นว่า Exynos เนี่ย ประสิทธิภาพสูงกว่า nVidia Tegra 2 (Tegra 250) นะครับ ส่วนหนึ่งมาจากความเร็ว 1.2GHz เทียบกับ 1GHz ด้วยอ่ะนะ แต่ว่าพอถึงเวลาเป็นเกมจริงๆ เกมที่ทำมาเฉพาะสำหรับ Tegra 2 (ที่เรียกว่าเกมแบบ THD) มันจะมีกราฟิกสวยกว่า และมีรายละเอียดของกราฟิกมากกว่า เช่น เกม BackBreaker เนี่ย เวอร์ชันธรรมดาจะเป็นฉากกลางคืน แต่ถ้าเป็นเวอร์ชัน THD จะเป็นกลางวัน มีเงาสมจริง และมีการฉายภาพออกจอใหญ่อีก … มันเลยทำให้ Exynos ไม่ได้แสดงประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ แต่ข้อดีคือ มันลงเกมทั่วไปของ Android ได้ โดยไม่ต้องง้อ Tegra Zone

บทสรุปของผม

โดยความเห็นส่วนตัว ผมว่า CPU ประสิทธิภาพสูงอย่าง Exynos นั้นออกมาเร็วไปหน่อย ทำให้ยังขาด App ที่จะมาดึงประสิทธิภาพของมันออกมาอย่างเต็มที่ … ถึงตอนนี้เท่าที่ผมลองเล่นดู ก็มีแต่ Video Maker ของ Samsung นั่นแหละ ที่ใช้ประสิทธิภาพที่ได้จาก Exynos อย่างเต็มที่จริงๆ แต่ใครที่สนใจอยากได้ Smartphone ระดับ High-end แบบสุดขีด ผมว่า Samsung Galaxy SII นี่คือคำตอบเลยทีเดียว แต่ว่าต้องทำใจเรื่องความรู้สึกว่าวัสดุมันก๊องแก๊งนะครับ