หน้าแรก > รีวิว Gadget, เก็บมาฝาก, โทรศัพท์มือถือ > กาฝากทะลุจอ รีวิว LG Optimus 3D ภาคพิจารณาเรื่องการใช้งาน

กาฝากทะลุจอ รีวิว LG Optimus 3D ภาคพิจารณาเรื่องการใช้งาน

image

เอาละครับ เชื่อว่าหลายคนคงอยากอ่านรีวิวการใช้งาน LG Optimus 3D กันต่อแล้ว และผมก็ไม่ขอทำให้ผิดหวังครับ เพราะในวันนี้ ผมจะมาขอเจาะประเด็นเรื่องการใช้งานกันครับ

จะเริ่มด้วยการใช้งานแบบสมาร์ทโฟนทั่วไป เพื่อดูว่าเป็นยังไง จากนั้นจะขอต่อด้วยโหมดการใช้งานแบบ 3-D และค่อยมาสรุปปิดท้ายกันครับ

เรื่องราวอันมีสาระที่นำมาเสนอนี้สนับสนุนโดย

  • Dell Thailand อยากชวนทุกท่านมาร่วมกิจกรรม “ทำดีกับเดลล์” ปิดทองหลังไมค์ ด้วยการเล่าเรื่องราวสิ่งดีๆ ที่คุณได้ทำให้กับดีเจชื่อดังทั้ง 3 หลังไมค์ผ่านทางบริการ Social Media และดีเจคนใดได้คะแนนความดีสูงสุด Dell Thailand จะบริจาคเงินแสนให้กับมูลนิธิโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเลย รายละเอียด คลิกที่นี่ครับ
  • Adecco Thailand เชิญทุกท่านมาร่วมตอบแบบสอบถามลักษณะบุคลากรที่เป็นที่ต้องการขององค์กร ลุ้นรับรางวัล http://bit.ly/oLmOUc

เอาละครับ เตรียมตัวอ่านเนื้อหาสาระของเรากันต่อได้เลย

ในการใช้งานแบบปกติ

imageimageLG Optimus 3D มาพร้อมกับ Optimus UI 2.0 เหมือนกับใน LG Optimus 2x กับ LG Optimus Black ครับ แบ่งเป็นหน้า Home Screen กับ App Drawer เหมือนกับ Android ทั่วๆ ไป

ในหน้า Home Screen ไม่ถือว่ามีอะไรที่โดดเด่น บอกตรงๆ ว่า Widget ของ LG Optimus UI นี่ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมากเท่าไหร่ ซึ่งเป็นจุดที่ LG น่าจะปรับปรุงให้ตามทัน (หรือแซง) คู่แข่งอย่าง Samsung หรือ HTC

ในส่วนของ App Drawer นั้น มีความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นตรงที่เราสามารถสร้างหมวดหมู่ เพื่อจัดไอคอนต่างๆ ไปอยู่ตามหมวดหมู่นั้นๆ ได้ โดยเบื้องต้นมีมาให้แล้ว 3 หมวดหมู่ คือ 3D Applications, Applications และ Downloads ครับ

imageimage

Phone App ทำออกมาได้ดีเช่นเคย สามารถค้นหารายชื่อติดต่อด้วยการกด Numpad ได้ จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกนะครับ เดี๋ยวนี้แบรนด์ดังๆ ที่เขาเอา Android มาปรับแต่งเอง เช่น Samsung หรือ HTC เขาก็ทำกันหมดแล้ว แต่อย่างไรก็ดี มันเป็นเรื่องเล็กๆ ที่หากใส่ใจแล้ว ผู้ใช้งานก็จะสะดวกมากๆ … นอกจากนี้ ในหน้าจอของ App Drawer นั้น หากเราแตะปุ่ม Menu แล้วเลือก Manage Apps เราก็จะสามารถ Uninstall App ออกได้ง่ายๆ เหมือนใน iOS เลย

อีกจุดที่ผมชอบคือ App ที่ชื่อว่า Application Manager ซึ่งจริงๆ มันก็คือ Task Manager สำหรับ LG Optimus 3D นั่นเอง เอาไว้ปิดการทำงานของ App ได้ หรือจะ Uninstall App ที่ติดตั้งไว้ได้เช่นกัน

imageLG App Advisor เนี่ย ในประเทศไทยนี่ ผมยังไม่เห็นประโยชน์อะไรมาก เพราะ มันเลือก App มาแนะนำแบบสุ่มได้แบบว่า สุ่มจริงๆ หาที่มีประโยชน์ไม่มีเลย

imageimageในขณะที่ LG World นั้น กลับมีอะไรให้เลือกดูเยอะแยะมากกว่ามากๆ ไม่ว่าจะเป็น App ต่างๆ หรือใน “โซน 3D” นี่ก็มี เกมและแอปพลิเคชั่นแบบ 3D ให้ดาวน์โหลด (ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเท่าไหร่) กับ วิดีโอ 3D ให้เลือกดูกันได้ (ความยาววิดีโอไม่นานเท่าไหร่ แต่ขนาดไฟล์ก็ใหญ่เอาการ เกือบร้อยเมกะไบต์ขึ้นไปเลยอ่ะ)

imageณ ตอนที่รีวิวนี่ ไม่แน่ใจว่าเพราะเป็นเครื่องทดสอบหรือเปล่า แต่ว่าผมไม่สามารถดาวน์โหลดวิดีโอ 3D มาดูได้ครับ มันบอก Invalid License

หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว การแสดงผลความละเอียด 480×800 พิกเซล ผมว่ามันเต็มตาเต็มใจดี (แม้ว่าโดยส่วนตัวผมจะชอบขนาดจอ 5 นิ้ว อิอิ)

จุดขายอีกอย่างนึงที่ผมสังเกตคือ App ที่ชื่อว่า RemoteCall ครับ ผมยังไม่ได้ทดลองใช้ดูหรอกนะ (เพราะไม่รู้ว่าใช้แล้วใครจะเข้ามาตอบผม เกิดเป็นคนเกาหลีละคุยกันไม่รู้เรื่องเลย ฮาฮา) แต่ถ้าทาง LG มาเตรียมกำลังพลสำหรับเรื่องนี้ไว้ละก็ ผู้ใช้งานอาจได้บริการหลังการขายที่ดี เพราะโปรแกรมนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ของ LG เข้ามาช่วยเหลือผู้ใช้งานได้ผ่านทางจากระยะไกลเลย

โหมด 3-D ของ LG Optimus 3D

imageApp หลายๆ ตัวจะมีคุณสมบัติการแสดงผลแบบสามมิติ ซึ่งเปิดใช้งานได้เมื่อเรากดปุ่ม 3D ที่อยู่ด้านขวาของตัวเครื่อง หรือ เรียกใช้ App ชื่อ 3D Space ก็ได้ครับ หากยังไม่มั่นใจว่าจะใช้งานยังไง ก็เปิดดูจาก 3D Guide ได้ครับ

image

Screenshot ด้านซ้ายมือนี่คือหน้าตาของ 3D Space ที่ผมจับภาพหน้าจอมา … จะเห็นว่าเทคโนโลยีการแสดงผลก็คือ การฉายภาพออกมา 2 ภาพพร้อมๆ กัน จากนั้นเทคโนโลยีของการแสดงผลของหน้าจอก็จะทำให้ภาพออกมาเป็นสามมิตินั่นเอง (รายละเอียดเรื่องเทคโนโลยี อ่านบล็อกก่อนหน้าของผมได้)

image

ในโหมดสามมิตินั้น จะมีตัวปรับตั้งสำหรับเลือกระดับความลึก (Depth) ของการแสดงผลสามมิติเสมอครับ อย่างในเกม Asphalt 6: Adrenaline ที่เห็นนี่ อยู่ด้านซ้ายมือของหน้าจอเกม

เกมที่เล่นในโหมด 3D นั้น จะไม่สามารถใช้งาน Accelerometer ได้ ไม่ใช่เพราะข้อจำกัดเรื่องการประมวลผล หรือเซ็นเซอร์แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะข้อจำกัดของเทคโนโลยี Parallax Barrier ที่ใช้สร้างภาพสามมิติของ LG Optimus 3D นั่นเอง ที่หากเราขยับเขยื้อนตัวเครื่องไปมา โฟกัสของตากับภาพบนหน้าจอจะไม่ถูกต้อง แล้วเราจะเห็นภาพเบลอๆ แทนที่จะเป็นภาพสามมิติ

การเล่นเกม ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ CPU ระดับ Dual-core 1GHz เนี่ย เล่นเกมได้สบายๆ แม้จะเป็นเกมที่ใช้กราฟิกหนักๆ อย่าง Asphalt 6: Adrenaline หรือแม้ว่าจะกำลังแสดงผลอยู่ในโหมดสามมิติก็ตาม

กล้องถ่ายรูป และ กล้องถ่ายวิดีโอ

image

โปรแกรมกล้องถ่ายรูป ก็คล้ายๆ กับสมาร์ทโฟนของ LG ทั่วไป มีโหมดถ่ายภาพ 2 แบบหลัก คือ ใช้กล้องหน้าหรือกล้องหลัง สามารถปรับโฟกัสได้ 4 แบบ คือ ออโต้, มาโคร, ภาพต่อเนื่อง และ ตรวจจับใบหน้า … เสียดายที่ LG ไม่เคยคิดจะพัฒนา Tap-to-Focus ให้ใช้งานได้ซะที

ลูกเล่นอื่นๆ ของกล้อง ก็มี การปรับ White Balance, การเลือกซีนถ่ายรูป และการใส่เอฟเฟ็กต์สี นอกนั้นก็ไม่มีลูกเล่นอะไรโดดเด่น ผมว่า LG คงต้องทำการบ้านเรื่องกล้องถ่ายรูปให้มากกว่านี้

ที่แตกต่างกว่าชาวบ้านเขา ก็คือตรงที่มันมีให้เลือกโหมด 2D กับ 3D นั่นแหละ (จริงๆ ผมต้องเรียกว่า 3-D ถึงจะถูก แต่ต้องพิมพ์ 3D เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่ปรากฏบนตัวเครื่อง)

คุณภาพของภาพถ่ายเป็นยังไงนั้น ลองดูต่างๆ นี้ได้ครับ

IMG117IMG123IMG131IMG085

คุณภาพของภาพอยู่ในเกณฑ์ปานกลางครับ สีสันไม่ได้สดใสแบบสุดๆ แต่ต้องบอกว่าค่อนข้างสมจริงตามสภาพแวดล้อม ณ ขณะที่ถ่ายจริงๆ ความไวชัตเตอร์ถือว่าเร็วเอาการเลยละครับ รูปแรกเนี่ย ผมถ่ายตอนอยู่บนรถขณะวิ่งบนทางด่วนว่างๆ ผมยังถ่ายป้ายข้างทางทันอ่ะ

imageภาพถ่ายที่ได้มา จะเป็นภาพที่เรียกว่า Stereo Image หรือก็คือ มี 2 ภาพ ซ้าย-ขวา ในไฟล์เดียว มีนามสกุลเป็น .jps (JPEC Stereo) ครับ ปกติจะถูกแสดงเหมือนกับว่าไม่มีโปรแกรมใดในเครื่องของเรารู้จักไฟล์ประเภทนี่ แต่ถ้าเราพยายามจะเปิดมัน แล้วเลือกโปรแกรมที่ใช้เปิด เป็นโปรแกรมดูรูปตัวโปรดของเรา (เช่น กรณีของผมคือ IrfranView) มันก็จะเปิดดูได้ปกติครับ

วิดีโอที่ถ่าย หากเป็นแบบ 2D ก็ถือว่าคุณภาพใช้ได้ครับ ความละเอียดระดับไปได้สูงสุดคือ Full HD 1080p เลยทีเดียว แต่ที่ผมอยากให้ดูคือ คุณภาพของวิดีโอแบบ 3D นี่ต่างหาก

ดูจากวิดีโอตัวอย่างข้างบนแล้ว สังเกตได้ว่า

  • หากปิดโหมด 3D ของ YouTube แล้ว ภาพก็จะดูไม่ชัดเท่าไหร่
  • วิดีโอก็ยังเป็นแบบ Stereo ครับ คือ มีภาพทั้งซ้ายและขวา ซึ่งตรงนี้ YouTube รองรับการนำเสนอไฟล์วิดีโอเพื่อให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีสามมิติที่จอภาพเรามี เช่น การใช้แว่นสีแดง-น้ำเงิน หรือ จอที่เป็นเทคโนโลยี Parallax Barrier เป็นต้น

image

แน่นอนว่าภาพถ่ายหรือวิดีโอที่ถ่ายแบบสามมิตินั้นจะดูได้อย่างสะใจต้องผ่านจอทีวีสามมิติ หรือไม่ก็ต้องดูกับสมาร์ทโฟนที่เป็นจอสามมิติเหมือนกัน นี่ก็เลยทำให้หลายๆ คนอาจคิดว่า แล้วถ้าเกิดถ่ายภาพหรือวิดีโอแบบสามมิติมาแล้วจะแชร์ให้คนอื่นดู จะทำยังไงดี แล้วเขาจะดูกันได้ไหม

คำตอบคือ ไม่น่าเป็นห่วงครับ เพราะว่า

  • เวลากด Share เพื่อแบ่งปันรูปถ่าย หรือ วิดีโอ ที่เป็นสามมิติเนี่ย มันก็จะขึ้นให้เลือกว่าจะแชร์เป็น 3D Data หรือ 2D Data เราก็เลือก 2D Data ได้
  • ถ้าเป็นวิดีโอแบบสามมิติ การอัพโหลดขึ้น YouTube ก็จะทำให้หมดปัญหา เพราะเราสามารถปิดการแสดงผลแบบสามมิติได้บน YouTube

โดยสรุปแล้วน่าสนใจไหม?

จากที่ผมทดลองเล่นมาพักใหญ่ๆ และลองโน่นลองนี่มาเยอะมาก ต้องบอกว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัวครับ การถ่ายรูปหรือวิดีโอแบบสามมิติมาอวดกันนี่แจ่มมาก ส่วนการใช้งานทั่วๆ ไป ก็ถือว่าโอเคครับ เพียงแต่ไม่ได้มีจุดเด่นเหนือคู่แข่งอื่นๆ มากมาย

จุดตัดสินใจของ LG Optimus 3D นี่ น่าจะอยู่ที่ เนื้อหาสามมิติ รวมถึง App และเกมต่างๆ ว่าจะมีมากขึ้นขนาดไหน และสนนราคาของมันจะอยู่ที่เท่าไหร่ และปัจจัยภายนอก เช่น ทีวีสามมิติที่เริ่มเป็นที่นิยมในขณะนี้ จะเริ่มแพร่หลายมากแค่ไหน และหากราคาไม่แพงมาก คนที่จะมีใช้ก็คงมีมากขึ้นอีกเยอะ และ LG Optimus 3D มันน่าใช้ขึ้นด้วยเช่นกัน (เพราะสามารถแบ่งปัน Content ที่มาจาก LG Optimus 3D ได้นั่นเอง)


หากมีข้อสงสัยประการใด หรืออยากแบ่งปันความเห็นของท่าน ยินดีรับฟังและร่วมออกความเห็นได้ทาง Comment ด้านล่างนี้ หรือจะร่วมแชร์ความเห็นและความรู้ได้อีกหนึ่งช่องทาง เพียงแค่กด Like Facebook Fan Page ของผม ที่ http://www.facebook.com/kafaakBlog ครับ

ส่วนใครได้ใช้ Google+ แล้ว แต่ยังไม่รู้จะเพิ่มใครเข้าแวดวง (Circle) ดี ก็จัดผมเข้าไปในแวดวงของท่านได้ที่ http://gplus.am/kafaak จ้า

  1. phichai
    สิงหาคม 19, 2011 เวลา 16:33

    เคยจะซื้อกล้องของ fuji ที่เป็น 3D เหมือนกัน แต่ตอนนั้น ราคาแพง แถมยังต้องใช้กับแผ่นฟิลม์ 3D อีก จึงไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ แต่อีกหน่อยคงจะมีเทคโนโลยีออกมารองรับมากขึ้นละครับ คงรอให้พัฒนามากกว่านี้อีกนิดค่อยว่ากัน

  2. กันยายน 19, 2011 เวลา 21:56

    LG สามารถ touch focus ได้นะครับ
    โดยการจิ้มค้างตรงจุดที่ต้างการ อันนี้ผมใช้ black อยู่นะครับ
    3D ไม่แน่ใจ

    • นายกาฝาก
      กันยายน 19, 2011 เวลา 21:58

      ตอนนี้เครื่อง LG ขอคืนไปแล้ว เลยไม่รู้จะทดสอบยังไงแฮะ แต่เดี๋ยวฝากคนที่ LG เช็คให้
      แต่ถึงจะทำแบบนั้นได้ก็ตาม การแตะค้างไว้แล้วถึงจะ Focus ผมก็ไม่อยากเรียกว่า Tap-to-Focus ครับ เพราะว่ามันไม่สะดวกอ้ะ

      แต่ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ (ความรู้สึกของผม Tap-to-Focus มันคือการแตะที่หน้าจอทีเดียว ไม่ใช่ค้าง ดังนั้นผมเลยไม่เคยได้ลองแตะค้างเลย เลยไม่ทราบจริงๆ)

      • กันยายน 19, 2011 เวลา 22:07

        ครับ ผมก็ว่าไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
        ช้า ถ้าเทียบกับของ iphone แล้ว โฟกัสไวมาก
        จริงๆก็มีปุ่ม menu อยู่แล้ว จะให้ทัชจอเพื่อเรียกเมนูก็ใช่ที่

  3. aonorito
    มกราคม 9, 2012 เวลา 13:55

    รุ่นนี้ใช้ซิมการ์ดได้แค่ ais i-mobile และTOTนะครับลองถามผู้ขายก่อนซื้อดูนะครับไม่รองรับทรูและดีแทค(เฉพาะ3g)ครับ

  1. No trackbacks yet.

ใส่ความเห็น