หน้าแรก > รีวิว Gadget, เก็บมาฝาก > ศึกช้างชนช้าง iPad vs Samsung Galaxy Tab vs Dell Streak ยกที่ 3

ศึกช้างชนช้าง iPad vs Samsung Galaxy Tab vs Dell Streak ยกที่ 3

บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ศึกช้างชนช้าง(และชนช้าง)ครั้งนี้ เป็นมวย 3 ยกครับ เพราะกะว่าจะเปรียบเทียบโดยละเอียดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ท่านทั้งหลายที่กำลังเล็งๆ ว่าจะซื้อ Tablet อยู่ จะได้ตัด(สิน)ใจได้ว่า จะเอาอะไรดี

ในยกที่ 3 นี้ ผมจะพูดถึงในสิ่งที่ยังไม่ได้พูดถึงในตอนที่แล้วครับ

tablet_comparison

เช่นเคยครับ … ก่อนที่เราจะเข้าสู่เนื้อหาบล็อก ผมก็อยากขอใช้เนื้อที่ราวๆ 5-6 บรรทัดจากนี้ในการขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของบล็อก “นานาสาระกับนายกาฝาก” คือ Adecco Thailand ก่อนครับ … อยากบอกว่า Adecco Thailand เพิ่งเปิดให้ดาวน์โหลด Thailand Salary Guide 2010 – 2011 ไปหมาดๆ นี้ ใครสนใจอยากรู้ข้อมูลว่า ณ ตอนนี้ตำแหน่งงานของเราควรมีรายได้ตอบแทนเท่าไหร่ ไม่ควรพลาดครับ หรือท่านผู้อ่านท่านใดทำงานในสายทรัพยากรบุคคล ก็ไม่น่าพลาดข้อมูลดีๆ แบบนี้เช่นกัน สนใจก็ไปดาวน์โหลดได้เลยครับ เพียงแต่ต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ก่อนนะครับ … สมาชิกเว็บไซต์ นอกจากจะได้ดาวน์โหลด Salary Guide ไปฟรีๆ แล้ว ยังสามารถได้รับข้อมูลข่าวสารดีๆ จากทาง Adecco Thailand ได้อีกด้วยครับ

ดาวน์โหลด Adecco  App จาก iTunes ให้คุณไม่พลาดข่าวตำแหน่งงานดีๆ ได้จากโทรศัพท์มือถือของคุณเลย

เอาละครับ กลับมาเข้าเรื่องของเรากันต่อได้แล้ว ณ บัดนาว…

 

ระบบปฏิบัติการ

เป็นที่ทราบกันดีว่า iPad มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS ซึ่งล่าสุด ขณะที่ผมกำลังพยายามอัพเดตบล็อกนี้อยู่นั้น มีข่าวว่า Apple เพิ่งปล่อยตัว iOS4.2.1 มาให้ดาวน์โหลดกันหมาดๆ แล้ว และในเวอร์ชันนี้ iPad ก็จะสามารถพิมพ์ภาษาไทยได้ แล้วก็รองนับการทำงานแบบ Multitasking ด้วย แต่ก็ยังเป็น Multitasking ในแบบของ Apple ครับ คือ มีบาง App ในงานบางอย่าง (เช่น การฟังเพลง, การคุยแบบ VoIP) เท่านั้น ที่สามารถทำงานต่อได้แม้จะย่อหน้า App นั้นลงไปแล้ว … แต่ App ส่วนใหญ่ (เช่น หนัง, เกม) เมื่อย่อหน้า App นั้นลงไปแล้ว การทำงานก็จะถูกหยุดเอาไว้ชั่วคราว (Pause) เอาไว้ก่อน รอเวลาที่ App นั้นจะถูกเรียกขึ้นมาใช้งาน จึงทำงานต่อไป … แนวคิดของ iOS นั้นคือการแยก App แต่ละตัวออกจากกันโดยสิ้นเชิง ทำให้การทำงานแบบเชื่อมต่อกันเป็นไปไม่ได้ จะมีก็แต่บาง App (โดยเฉพาะ App ของ Apple) ที่สามารถทำงานกันแบบเชื่อมโยงได้ (เช่น เปิดดูรูปแล้วเลือกส่งเมล์ หรือ เปิดไฟล์เอกสารบนเว็บบน App อย่าง iWorks หรือ Document 2 Go เป็นต้น)

ในขณะที่ Samsung Galaxy Tab และ Dell Streak นั้น เป็นการทำงานแบบ Multitasking มากกว่า และเนื่องจากเป็นระบบปฏิบัติการที่มีพื้นฐานอยู่บนระบบเปิด ก็เลยทำให้สามารถทำงานแบบเชื่อมโยงกันระหว่าง App ได้ง่ายกว่า เช่น เปิดหน้าเว็บไซต์ (เช่น บล็อก “นานาสาระกับนายกาฝาก” นี่) แล้วรู้สึกว่าน่าสนใจอยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านบ้าง ก็สามารถกดปุ่ม Menu แล้วกด Share Page ได้เลย ซึ่งจะแชร์ผ่านอะไรได้บ้างนั้น ก็อยู่ที่ว่าเราจะติดตั้ง App อะไรไว้บ้าง อย่างในรูปตัวอย่างข้างล่างนี่ จะเห็นว่าแชร์ผ่าน Facebook, Twitter, Gmail, SMS ฯลฯ ได้เลย

webshare

ระบบปฏิบัติการใดจะเหมาะกับใครนั้น ผมว่าอยู่ที่ผู้ใช้ครับ อย่างกรณีของผมนั้น ผมเน้นที่การแชร์ข้อมูลให้เพื่อนๆ ผ่านทาง Twitter เป็นส่วนใหญ่ (และ Facebook บ้างเป็นส่วนน้อย) ดังนั้นระบบปฏิบัติการ Android ก็จะเหมาะกับผมมากกว่า … ในขณะที่อีกหลายๆ คนนั้นอาจจะเน้นที่การใช้งานให้สะดวกสบาย อยู่ดีมีสุข ซึ่งตรงนี้ ผลสำรวจล่าสุดที่ทาง CNET ได้รายงานเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้งาน iPhone (ซึ่งเป็น iOS) นั้นมีความพึงพอใจมากกว่ายี่ห้ออื่นๆ

และเมื่อเทียบระหว่าง Samsung Galaxy Tab กับ Dell Streak ซึ่งต่างก็เป็น Android Tablet ทั้งคู่แล้ว ก็ต้องบอกว่าแล้วแต่คนชอบอีกนั่นแหละครับ Samsung Galaxy Tab มาพร้อมกับ UI ชื่อ TouchWiz ที่ให้ความรู้สึกแบบ iPad ที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางตำแหน่งไอคอนต่างๆ รวมถึงลักษณะของไอคอน แต่ก็ยังแฝงด้วยอายของความเป็น Android อยู่ และเป็น Android 2.2 … ส่วน Dell Streak นั้น จนถึง ณ ตอนนี้ผมยังไม่ได้ลงลึกกับ Android 2.2 ที่เพิ่งออก Official ไม่นานมานี้เท่าไหร่ แต่เท่าที่ดู Dell Streak พร้อมกับ UI ที่เรียกว่า Stage UI ก็ดูดีน่าใช้ และให้ความรู้สึกเหมือนกับคอมพิวเตอร์จริงๆ อยู่ (แต่จากการได้พรีวิวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยังดูหนืดๆ อยู่นิดๆ ครับ แต่ขอลองสัมผัสจริงๆ ก่อน แล้วจะมารีวิวให้อ่านกันอีกที)

 

กล้องถ่ายรูป

ถ้าจะชนกันในเรื่องของกล้องถ่ายรูป ต้องเสียใจด้วยที่ iPad ต้องแพ้ขาดลอยไปเลย เพราะว่าไม่มีกล้องครับ ฮาฮา … คงเหลือแต่ Samsung Galaxy Tab และ Dell Streak ที่จะมาห้ำหั่นกันต่อ ซึ่งทั้ง Samsung Galaxy Tab และ Dell Streak ต่างก็เป็นกล้องดิจิตอลระบบ Auto Focus ทั้งคู่ แต่วัดกันที่ตัวเลขแล้ว Dell Streak มากับกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ในขณะที่ Samsung Galaxy Tab มากับกล้องความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล ทั้งคู่มาพร้อมกับ Flash ไว้สำหรับถ่ายในที่มืด … แต่ Samsung จะดูได้เปรียบกว่านิดหน่อยตรงที่ทำกล้องดิจิตอลขายด้วย เลยทำให้กล้องดิจิตอลมีลูกเล่นเยอะกว่าครับ

ส่วนเรื่องคุณภาพของภาพนั้น ลองดูการปะทะกันแบบตรงๆ ดีกว่าครับ … ตามรูปด้านล่างนี่เลย

ผมถ่ายในโหมด Auto ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น โฟกัส, Whitebalance, ISO ฯลฯ จะสังเกตว่า Dell Streak ให้ภาพที่มืดกว่าเล็กน้อย และเมื่อผมลองถ่ายภาพรถยนต์ในโรงรถ ก็จะเห็นว่าสีรถซึ่งเป็นสีแดงนั้น ออกมาเป็นสีแสดไปหน่อย เพราะว่าแสงสะท้อนเข้ามาที่ตัวกล้องเยอะมาก

ตรงนี้ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นผลจากขีดความสามารถของซอฟต์แวร์กล้อง ที่ Samsung Galaxy Tab นั้นทำได้ดีกว่า … แต่เดี๋ยวคงต้องรอดูว่า Dell Streat ที่เป็น Android 2.2 จะมีการปรับปรุงในส่วนนี้ด้วยไหม คงต้องรอดูอีกทีครับ

 

มัลติทัช

iPhone 2G เป็น Smartphone รุ่นแรกที่ทำให้เรารู้จักกับคำว่า มัลติทัช (Multitouch) นั่นช่วยให้การสั่งงานกับ App ต่างๆ ทำได้ดีขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นการจับตะแคงรูปภาพ การซูมเข้าออก หรือแม้แต่การเล่นเกม (เกมอย่าง Tap Tap … ซึ่งเป็นเกมคล้ายๆ กับ Guitar Hero นั้น มีจังหวะที่ให้ผู้เล่นแตะหน้าจอพร้อมๆ กัน หลายๆ จุด)

Smartphone หรือ Tablet สมับนี้ก็เลยต้องมาพร้อมกับคุณสมบัติที่เรียกว่า รองรับมัลติทัช กันหมดเลย เพียงแต่ว่า มัลติทัช ในความหมายของพวกเขา หมายถึงกี่จุดกันแน่?

Apple iPad รองรับ 11 จุด!!Samsung Galaxy Tab รองรับ 5 จุดDell Streak รองรับ 2 จุด

โชคดีที่มี App สำหรับทดสอบการทำมัลติทัชทั้งบน iOS และ Android เลย … โดย iOS นั้นผมเลือกใช้ Multitouch Visualizer ส่วน Android ผมเลือกใช้ Multitouch Visible Test (ด้วยเหตุว่าระบบเสถียรกว่า App อีกตัวที่ชื่อ Multitouch Visualizer 2 ครับ)

Dell Streak นั้นรองรับ 2 จุด ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน App ทั่วๆ ไป (เน้นการ Pinch Zoom) ครับ ส่วน Galaxy Tab นั้นรองรับได้ถึง 5 จุดเลยทีเดียว เป็น Android Tablet ตัวเดียวที่รองรับได้มากขนาดนี้ (ตัวอื่นๆ ที่ผมทดสอบมา รองรับแค่ 2 จุดกันทั้งนั้น … อันนี้รวมถึง Android Smartphone ที่ผ่านมือมาทั้งหมดด้วยนะครับ)

แต่ที่ทำให้ตกใจคือ Apple iPad ครับ ผมรู้แต่ว่ามันรองรับได้เต็มที่มากๆ เลยเริ่มทดสอบด้วยการจิ้มไป 10 นิ้วเลย ซึ่งเป็นไปตามคาด คือ รองรับได้สบายๆ 10 จุด ก็เตรียมให้น้องชายถ่ายภาพให้แล้ว แต่ปรากฏว่าน้องชายเกิดอยากลองของ เลยลองจิ้มไปอีกนิ้ว แม่เจ้า! มันรองรับที่ 11 จุดครับ!!! (ผมพยายามลองจุดที่ 12 แต่ไม่สามารถทำได้แล้ว)

ตรงนี้เลยต้องบอกว่า iPad ชนะขาดเลย Don't tell anyone smile

 

หมอจุน … หมุนจอ

ไม่ว่าจะเป็น Apple iPad, Samsung Galaxy Tab หรือ Dell Streak ต่างก็มีเซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับสถานะการตะแคงของตัวเครื่องทั้งสิ้น iPad มีสิ่งที่เรียกว่า Accelerometer ในขณะที่ Galaxy Tab และ Streak เรียก G-Sensor (แต่หลายๆ ที่เรียกเป็น Accelerometer เพื่อไม่ให้สับสน และเข้าใจได้ทันที)

ทั้ง iPad และ Galaxy Tab นั้น สามารถรองรับการตะแคงหน้าจอไปตามทิศทางต่างๆ ไม่ว่าจะจับตั้งปกติ นอนซ้าย ตะแคงขวา หรือแม้แต่กลับหัวก็ได้ทั้งนั้น … ส่วน Dell Streak นั้น หากเป็นตัว Android 2.1 จะรองรับการจับตั้งแต่ตะแคงซ้ายเท่านั้น แต่พออัพเกรดเป็น Android 2.2 แล้ว จะได้ทั้งจับตั้งปกติ นอนซ้าย ย้ายไปตะแคงขวา … แต่เสียดาย ที่ยังไม่รองรับการกลับหัวใช้งานครับ

แต่เอาเถอะ สำหรับผม การกลับหัวไม่ได้ ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยได้ทำอยู่แล้วล่ะ

 

บทส่งท้าย

แต่สุดท้ายนี้ ผมไม่อยู่ในฐานะที่จะไปฟันธงให้คุณได้ว่าควรจะซื้อตัวไหนดี เพราะแต่ละตัวก็จะมีข้อดีข้อด้อยเป็นของมันเอง … จริงๆ แล้ว ผมไม่อยากเรียกว่าเป็นข้อดีหรือข้อด้อยเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าจุดที่เป็นข้อดีของคนคนหนึ่ง (เช่น Dell Streak ขนาด 5” ผมว่าขนาดพอดีมาก และทำให้ผมพกเครื่องเดียวเป็นได้ทั้ง Tablet และ Smartphone) อาจกลายเป็นข้อด้อยของอีกคนหนึ่งไปเลยก็ได้ (บางคนก็อาจเถียงผมว่า 5” มันเล็กไป)

แน่นอนว่าบางตัวคุณสมบัติก็ไม่ครบถ้วนเทียบเท่ากับตัวอื่นๆ แต่คำถามจริงๆ ก็จะอยู่ที่ว่า คุณจำเป็นต้องใช้คุณสมบัตินั้นๆ มากน้อยเพียงใด … เช่น สำหรับคนที่อยากเล่นเกมจริงจังละก็ การมีหน้าจอมัลติทัชที่รองรับหลายๆ จุด ย่อมดีกว่าหน้าจอที่รองรับจำนวนจุดได้น้อยกว่าแน่นอน แต่สำหรับคนที่เอาไว้ท่องเว็บ ดูรูปเฉยๆ แล้วละก็ แค่ 2 จุดมันก็เพียงพออยู่แล้ว เป็นต้น

ผมว่าสุดท้ายนี้ ท่านผู้อ่านต้องพิจารณาประเด็นที่ผมวิพากย์วิจารณ์ทั้งหมด แล้วหันมาถามตนเองครับ ว่าอะไรคือคุณสมบัติที่เราต้องการที่สุด และจำเป็นมากๆ และพิจารณาเลือกซื้อตามให้สอดคล้องกับความต้องการคุณสมบัติของเราครับ

หมวดหมู่:รีวิว Gadget, เก็บมาฝาก ป้ายกำกับ:, , , , ,
  1. พฤศจิกายน 22, 2010 เวลา 23:17

    ขอบคุณมากครับ คุณกาฝาก สำหรับ บทความไตรภาค ดีๆ 🙂

    • นายกาฝาก
      พฤศจิกายน 23, 2010 เวลา 00:23

      ขอบคุณครับ 🙂

  2. zai153
    พฤศจิกายน 23, 2010 เวลา 02:58

    เหอะๆ ได้อ่าน สักที รอคั้งนาน ขอบคุณ กับบทความดีๆแบบ นี้แล้วก็ เป็นกำลังใจ ให้ครับ จะเข้ามาอ่านเรื่อยๆครับ

  3. satid
    พฤศจิกายน 23, 2010 เวลา 11:08

    รอ dell streak ครับ ไม่ทราบว่ามีความคืบหน้าบ้างมั้ยครับ

  4. พฤศจิกายน 23, 2010 เวลา 21:02

    เป็นบทความคุณภาพอย่างแท้จริง

    • นายกาฝาก
      พฤศจิกายน 24, 2010 เวลา 07:13

      ขอบคุณครับ

  5. pommy147
    พฤศจิกายน 23, 2010 เวลา 22:17

    Dell Streak ไม่มีกำหนดส่งมอบแล้วคุณกาฝาก 555

    โอกาสหน้าผมยังมีหวังจะได้แน่นอน ( คิดว่าพวกที่จ่ายเงินคงขอเงินคืนหมด)

    เก็บเงินรอ รอ รอ รอ………

    ปล. ตกลงผมให้พี่ผมซื้อ Ipod touch 4 แทน คิดว่าคงไม่มีปัญหาแน่ที่เกาหลี

    • นายกาฝาก
      พฤศจิกายน 24, 2010 เวลา 07:15

      ใจเย็นๆ ครับ ผมก็รออยู่เหมือนกันสำหรับ Dell Streak … ตอนนี้ลุ้นแต่ว่าเมื่อไหร่ กทช. จะปล่อยตัวประกัน ฮาฮา

      iPod Touch 4th Gen นี่ ผมสั่งมาจาก Apple Online Store ครับ เพราะมันสลักหลังให้ด้วย อิอิ … เออ ว่างๆ รีวิว iPod Touch 4th Gen ให้อ่านบ้างก็น่าจะีดีเหมือนกันเนอะ

      • pommy147
        พฤศจิกายน 26, 2010 เวลา 20:02

        จัดรีวิว iPod Touch ซักชุดเลยครับ ^ ^
        ถ้าสั่งแบบคุณกาฝากนี่ประกันเป็นแบบไหนครับ(ส่งซ่อมที่ไหน)
        แล้วผมเอามาจากเกาหลีจะเป็นเหมือนกันไหมครับ……

        ถามโง่โง่นิดนะครับ WIFI ของApple นี่มันเล่นกับโมเด็มที่เป็น Wireless Router ได้ไหมครับ
        หรือต้องสมัครตามค่ายๆต่าง Tru.. Dta.. Ai..
        กลัวลงApp ไอพอดเองไม่ได้ ต้องไปลงที่ MBK แทน เหอๆ

      • นายกาฝาก
        พฤศจิกายน 27, 2010 เวลา 09:01

        เดี๋ยวว่างๆ แล้วจะจัด iPod Touch ให้ซักดอกครับ
        แต่ตอนนี้ขอเคลียร์ Garmin-Asus A50 กับ Dell Streak (Android 2.2 ดูว่ามีอะไรเปลี่ยนไป) ก่อน

        การสั่งซื้อแบบผมก็ประกันศูนย์แหละครับ เอาเข้าศูนย์ Apple Thailand ได้ครับ (เพราะถือว่าสั่งตรงจาก Apple ไม่ใช่ Authorized Dealer อย่าง iStudio) แต่ถ้าคุณเอามาจากเกาหลี อันนี้ไม่แน่ใจ ต้องการ User Agreement

        WiFi ของ Apple เล่นกับโมเด็มที่เป็น Wireless Router ?? หมายถึงคุณมีพวก iPhone iPod Touch แล้วจะต่อกับ Wireless Router ที่บ้านได้ไหมน่ะเหรอครับ? ได้สิครับ ผมก็ใช้อยู่อ่ะ

      • pommy147
        พฤศจิกายน 28, 2010 เวลา 15:04

        อาา…. ใช่ครับเรื่อง WIFI กลัวของ Apple ไม่เหมือนชาวบ้าน
        มีคำถามอีกแล้ว แล้วเครื่อง Ipod ปกติมันมีภาษาไทยหรือเปล่าครับ(ของคุณกาฝากที่สั่งซื้อ)
        หรือมันมีภาษาอังกฤษพื้นฐานให้อยู่เเล้วครับ (พี่ผมถามกลับมา)

      • pommy147
        พฤศจิกายน 28, 2010 เวลา 19:13

        อา… ขอโทษครับ ให้น้องช่วยพิมพ์ให้ เอาใหม่
        .
        .
        .

        เรื่องภาษาเครื่อง iPOD น่ะครับ มีภาษาอังกฤษอยู่แล้วใช่ไหมครับ (เช่น ที่คุณกาฝากสั่งซื้อ)
        แล้วมันมีภาษาไทยหรือลงเพิ่มได้ไหมครับ
        แล้วเครื่องชาจของมันนี่ใช้ได้กับเราใช่ไหมครับ
        ขอโทษที่ถามทีละอย่างครับ นึกไม่ค่อยออก
        จะได้ของที่เค้าซื้อให้ กลัวใช้ไม่เป็น+ใช้ไม่ได้ ^_^”

      • นายกาฝาก
        พฤศจิกายน 28, 2010 เวลา 21:11

        iOS รองรับภาษาต่างๆ อยู่แล้วครับ เราเลือกได้ในภายหลังครับ (รวมถึงภาษาไทยด้วย)
        เครื่องชาร์จที่เกาหลีใช้กับไทยได้ไหม … ไม่ต้องคิดเลยครับ เพราะ iPod ไม่มีแถมเครื่องชาร์จมาครับ มีแต่สาย USB ไว้ชาร์จกับคอมฯ ฮาฮา

      • pommy147
        พฤศจิกายน 29, 2010 เวลา 05:57

        อ้าว ซะงั้น >_< ขอบคุณครับ

  6. TanTai
    พฤศจิกายน 25, 2010 เวลา 05:27

    Dell Streak ของดีที่ไม่ได้ขายในไทย 555
    สงสัยต้องหาคนหิ้วมาให้จากอเมริกาแล้วอ่ะ
    ชอบมากๆ มีสีแดง Version Unlocked แล้วด้วย

    • นายกาฝาก
      พฤศจิกายน 25, 2010 เวลา 09:58

      ไม่ต้องไปไกลถึงอเมริกาครับ
      เวียดนามก็มีขาย อิอิ … แต่อดใจรอหน่อยเถอะหนา ขืนไปซื้อเครื่องหื้วกันหมด เดี๋ยวรุ่นใหม่ๆ จะไม่ได้มาวางขายในไทยนะ

      สนับสนุนผู้้ค้าในไทยให้ขายได้ เขาจะได้มีกำลังใจเอามาขาย อนาคตจะได้ไม่ต้องฝากไว้กับเครื่องหิ้วครับ … ตอนนี้รอ กทช. ปล่อยตัวประกัน

  7. satid
    พฤศจิกายน 26, 2010 เวลา 21:01

    Dell Opus One รุนนี้เป็นเรื่องจริง หรือว่าข่าวลือครับ คุณกาฝาก

    • นายกาฝาก
      พฤศจิกายน 27, 2010 เวลา 09:04

      แหม่ๆ
      ของแบบนี้ใครเขาจะยอมบอกผมกันครับ ความลับทางราชการแบบนี้

  8. TanTai
    พฤศจิกายน 27, 2010 เวลา 22:52

    พี่กาฝาก จัด Review HTC DESIRE HD
    หน่อยซิครับ เปิดตัวไปแล้ว
    รอขายจริงๆเดือนธันวาคมนี้

    หรือ HTC HD 7 ก็ได้ครับ รู้สึกตอนนี้เครื่องหิ้ว
    T-Mobile ปั่นป่วนมากๆ อ่านไทยไม่ได้บางเวบ
    แม้นแต่เวบข่าวผู้จัดการ ฮามากๆเลยอ่ะ
    พิมพ์ไทยก็ยังไม่ได้ สงสัยต้องรอ Dtac เปิดตัว
    ได้ข่าวว่าผ่าน กทช. แล้ว

    • นายกาฝาก
      พฤศจิกายน 27, 2010 เวลา 23:59

      รีวิวได้ตามแต่อัตถภาพครับ
      ถ้าได้เครื่องมาอ่ะนะ… HTC Desire HD นี่ เดี๋ยวคงต้องลองติดต่อ PR ก่อน
      HTC HD7 นี่ ได้เล่นมาบ้างแล้ว แต่ไม่มากพอจะพรีวิวครับ ฮาฮา

  9. por
    พฤศจิกายน 28, 2010 เวลา 06:35

    ใครมีsamsung galaxy tab ขายต่อคับโทรมาได้ที่0812979596

  10. พฤศจิกายน 29, 2010 เวลา 20:59

    ชอบตรงมีโลโก้ final fight เนี่ยแหละ
    แอบสน dell ครับ ผมว่า ขนาดเท่าๆ กับ psp เลย

    • นายกาฝาก
      พฤศจิกายน 30, 2010 เวลา 07:07

      รู้จักโลโก้นี้ รู้อายุกันเลยทีเดียว ฮาฮา

  11. bosswin02
    ธันวาคม 1, 2010 เวลา 21:15

    เ่อ่อ อยากทราบว่า I pad ดูวิดิโอ Full HD ได้รึเปล่าครับ

    • นายกาฝาก
      ธันวาคม 2, 2010 เวลา 07:15

      ผมเองก็ไม่เคยลองแบบ Full HD (1080p) ซะทีครับ ปกติแล้วผมจะลองแค่ HD (720p) เพราะหน้าจอความละเอียด 1024×760 เอง

      • bosswin02
        ธันวาคม 2, 2010 เวลา 22:11

        ขอบคุณมากครับ

        เ่อ่อ อยากถามอีกเรื่องครับ

        Galaxy Tab มี HDMI ไหมครับ อ่านในบางเว็บบอกไม่มี- –

      • นายกาฝาก
        ธันวาคม 2, 2010 เวลา 22:31

        ไม่มีพอร์ต HDMI ตรงๆ ครับ แต่ว่าเห็นพอร์ต 30-pin ไหมครับ อันนั้นแหละครับ เขาจะมีสายเคเบิลพิเศษ สำหรับต่ออกเป็น HDMI มาขายครับ

  12. pojkun
    ธันวาคม 4, 2010 เวลา 20:44

    ผมคิดว่ามีอีกเรื่องที่สำคัญที่คุณกาฝากไม่ได้บอกคือ ipad ไม่รองรับ flash player ครับ ดังนั้นจะใช้บางเรื่องไม่ได้เช่นเล่นหุ้นครับ 🙂

    • นายกาฝาก
      ธันวาคม 4, 2010 เวลา 22:54

      จริงๆ เรื่อง Flash Player นี่พูดยากจริงๆ เพราะ Android เอง แม้จะมี Flash Player แล้ว แต่มันก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนบนคอมฯ ครับ

      ส่วน iPad นั้น เราสามารถลง App ของ SET เพื่อเข้าดูหุ้นและทำการซื้อขายหุ้นได้ครับ แต่ App ดังกล่าวบน Android ไม่มี

      • กันยายน 21, 2011 เวลา 11:00

        App ที่ใช้ดูหุ้นบน Android ตอนนี้มีแล้วครับ

        i2trade ลองใช้ดู

  13. bosswin02
    ธันวาคม 5, 2010 เวลา 18:59

    แล้ว 30-pin ที่ว่าที่มีสายต่อออก เป็น HDMI แพงมากมั้ยครับ แล้วมีสายเสียบต่อเข้าก็คอมหรือเปล่าครับ หรือต้องซื้อเพิ่มอีก

    • bosswin02
      ธันวาคม 5, 2010 เวลา 19:01

      แล้วแบต เตอรรี่ แค่ 7ชม ไช่มั้ยครับ พอหมด 7 ชม ต้องชาร์ตใหม่ทันทีไช่มั้ยครับ

      – -(ขอโทดนะครับที่ถามละเอียด) พอดีจะซื้อแล้ว

      (ขอบคุณล่วงหน้า + ล่วงหลังด้วยครับ)

  14. ต้น
    ธันวาคม 6, 2010 เวลา 20:47

    จริงหรอครับ แต่ผมเคยได้ยินมาว่า galaxy tab ได้ถึง 16 จุด -*-

    ไม่รู้นะ

    ผิดผลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย

    • นายกาฝาก
      ธันวาคม 6, 2010 เวลา 20:53

      ผมลองทดสอบด้วย Multitouch Visible Test น่ะครับ ผลที่ได้คือ 5 จุด (ตามที่ทำ screenshot ไว้ให้ดู)

  15. M@x_Oper@
    ธันวาคม 7, 2010 เวลา 18:22

    ครับบ ผมมีแหล่งข้อมูลมาอ้างอิงไม่รู้จริงเปล่าลองอ่านดูครับ ว่า Tab ใช้ ตัว touch sensor ของ Maxtouch ที่รองรับ จุดสัมผัสที่แตกต่างกันได้มากถึง 16 จุด

    ผมไม่รู้นะว่ามันเกี่ยวกับ Software android หรือเปล่า

    • นายกาฝาก
      ธันวาคม 7, 2010 เวลา 20:22

      ผมก็เคยลองค้นแล้วครับ เขาว่าโดยทฤษฎีแล้วไม่จำกัด แต่ Android นั้นรองรับ 128 จุด แต่ตัวอุปกรณ์เองดันลดจำนวนจุดลงเหลือแค่ 16 …
      แต่ผมทดสอบจริงๆ ด้วย App ชื่อ Multitouch Visible Test แล้ว มันแสดงได้สูงสุดแค่ 5 จุดเท่านั้น แตะนิ้วที่ 6 ไปแล้วก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาครับ

      ผมเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์เอง เห็นเอง มากกว่าข้อมูลอ้างอิงอื่นๆ ครับ

  16. M@x_Oper@
  17. M@x_Oper@
    ธันวาคม 7, 2010 เวลา 23:01

    แล้วคุณว่าในอนาตคมันจาเพื่มขึ้นใหม

  18. ธันวาคม 8, 2010 เวลา 08:51

    ลองใช้โปรแกรมนี้ดูครับลองดูว่าได้ 16 จริงใหม

    http://www.androidzoom.com/android_applications/tools/yet-another-multitouch-tester_kcew.html

    • นายกาฝาก
      ธันวาคม 8, 2010 เวลา 09:19

      ตอนนี้คืน Galaxy Tab เขาไปแล้ว
      แต่เดี๋ยวจะให้เพื่อนที่มี Galaxy Tab โหลดไปทดลองดูครับ ได้ผลอย่างไรจะแจ้งให้ทราบ
      แต่ถ้าให้เดา ก็คงได้ 5 จุด เหมือนกับ Galaxy S ครับ

  19. wisit
    มกราคม 19, 2011 เวลา 23:35

    ขยันทดสอบเครื่องจัง หาเวลาพักผ่อนบ้างนะครับ

  20. KooN
    มกราคม 31, 2011 เวลา 14:22

    สวัสดีครับ อ่านมาตั้งแต่ ตอน1ถึงสุดท้ายเนี่ย ยังสงสัยว่า galaxy tab แบบปรกติกับ แบบ wifi อย่างเดียวต่งกันยังไงครับ
    ขอบคุณครับ

    • นายกาฝาก
      กุมภาพันธ์ 1, 2011 เวลา 20:20

      แบบปกติก็ใส่ซิมได้ โทรศัพท์ได้ แต่แบบ WiFi-Only ก็สมชื่อไงครับ ต่อเน็ตผ่าน WiFi สถานเดียว

  21. comdevil
    กุมภาพันธ์ 6, 2011 เวลา 02:16

    ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆนะครับ ^^
    สุดสัปดาห์นี้มีโอกาสได้เอาน้อง Tab ของบอสมาเล่น
    พอดีแกซื้อมาแล้วฝากมาศึกษา แล้วให้ไปสอนให้อีกที
    ได้ขุดคุ้ยซะทุกซอกทุกมุมจนสะใจ แบบว่าลืม iPad กันไปเลยทีเดียว
    และพอดีวันนี้ว่างๆเลยไปเดินเล่น ได้มีโอกาสเล่นเจ้า Streak น้อย
    มันช่างน่ารักเหมาะมือเสียนี่กะไร ทำได้เหมือนกันทุกอย่าง แต่กระทัดรัดกว่า
    ทำเอาผมลังเลเลย เล่นจนอยากได้อะครับ เอาไปยั่วแฟนให้อยากได้ตาม อิๆ
    จริงๆแล้วต้องขอ permission ก่อน แฮ่ๆ

    • นายกาฝาก
      กุมภาพันธ์ 6, 2011 เวลา 08:17

      บอกบอสครับว่า ต้องซื้อให้เครื่องนึงด้วย จะได้มีใช้คู่กัน มีอะไรจะได้สอบถามกันได้ :p

      ส่วน Dell Streak น่าเสียดายจังที่ต้องขออนุมัติงบจาก ผบ.ทบ. (ผู้บัญชาการที่บ้าน) อิอิ

  22. noppong2519
    กุมภาพันธ์ 19, 2011 เวลา 11:23

    คุณกาฝากครับ ลืมรีวิว เรื่อง ระบบ GPS หรือเปล่าครับ เพราะผมอ่านจนจบแล้ว ไม่ได้พูดถึงเลย กำลังอยากรู้เรื่องนี้ ก่อนตัดสินใจซื้อ จริงจะซื้อ Galaxy เพราะมันมี GPS แต่คุณไม่ได้พูดถึงจึงอยากขอข้อมูลจุดนี้เพิ่มหน่อยครับ ไม่รู้ว่าของDell มีหรือเปล่า ส่วน iPad ไม่น่ามีอยู่แล้ว

    • นายกาฝาก
      กุมภาพันธ์ 19, 2011 เวลา 11:45

      ไม่ลืมครับ แต่ไม่สะดวกทดสอบ เพราะถ้าจะทดสอบ ผมอยากใช้คู่กับ Navigation App จริงๆ ที่ไม่ใช่ Google Map แต่ผมไม่มี App ครับ

  1. No trackbacks yet.

ส่งความเห็นที่ zai153 ยกเลิกการตอบ