บล็อกตามคำขอ iOS vs Android เลือกอันไหนดี?

สองวันนี้ผมไม่สะดวกที่จะเขียนบล็อกแนวรีวิวยาวๆ แต่ก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาเขียนคั่นเวลาดี ก็ประจวบเหมาะว่ามีท่านผู้อ่านท่านหนึ่ง เกิดความลังเลใจว่า ระหว่าง iPhone 4 กับ Dell Streak 5 (ต้องขอเรียกแบบนี้แล้ว เพราะผมมี Dell Streak 7 อีกตัวมาจ่อคิวรอรีวิวแล้ว) จะเลือกอันไหนดี

ไม่รู้จะมีใครกำลังลังเลแบบท่านผู้อ่านท่านนี้ไหม แต่ผมไม่อยากจะฟันธงไปที่ยี่ห้อใด รุ่นใดโดยเฉพาะครับ ผมคิดว่า หากต้องเขียนให้ท่านผู้อ่านทั่วไปได้อ่านกันแล้ว ควรที่จะเขียนวัดกันที่ระบบปฏิบัติการดีกว่า

แน่นอนว่า ก่อนอื่นผมก็ต้องขอประชาสัมพันธ์ให้กับสปอนเซอร์ที่น่ารักทั้งหลายของผมก่อนนะครับ

• อเด็คโก้จัดฟรีสัมมนาสำหรับผู้ที่กำลังมองหางานที่ต้องการเพิ่มทักษะการเขียนresume โดยสอนเทคนิคเพื่อให้resumeเป็นที่ดึงดูดต่อบริษัทชั้นนำทั่วประเทศ  และรู้เทคนิคการสัมภาษณ์งาน เตรียมพร้อม และฝึกซ้อมการสัมภาษณ์งานในทุกแง่มุมก่อนเข้าสู่สถานการณ์จริง โดยฟรีสัมมนาจะจัดขึ้นทุกเดือน พิเศษสำหรับสมาชิกอเด็คโก้เท่านั้น!! อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่เลย
• แม้ว่าท่านผู้อ่านอาจจะพลาดไม่ได้สอย Dell Streak 5 นิ้วมาเป็นเจ้าของในงาน Thailand Mobile Expo 2011 ที่ผ่านมา ก็ยังสามารถที่จะไปสอยมาเป็นเจ้าของได้ในราคา 19,900 บาทนะครับ หาซื้อได้ตาม Power Buy และร้านค้าในเครือ Value Systems ครับ
• ลูกค้า i-mobile 3GX สามารถที่จะสมัครแพ็กเกจ Unlimited Package 650 บาท/เดือน (ไม่รวม VAT) ซึ่งให้คุณใช้งาน BlackBerry Service ได้ไม่จำกัด, เล่นอินเทอร์เน็ต 3G ไม่จำกัด และ โทรฟรีไม่จำกัด บนโครงข่าย TOT3G (นอกพื้นที่ โทรผ่าน Roaming คิด 1.50 บาท/นาที) ส่วน SMS ครั้งละ 1 บาท รายละเอียด อ่านที่นี่เลย

โอเค … กลับมาเข้าเรื่องของเรา … ก่อนอื่นมาทำข้อตกลงกันก่อนนะครับ … แน่นอนว่า ณ ห้วงเวลาที่ผมเขียนบล็อกตอนนี้ Dell Thailand เป็นหนึ่งในสปอนเซอร์ผู้น่ารักของผมครับ ซึ่ง Dell Thailand นั้นก็มี Dell Streak 5 ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ที่เป็นที่มาของการวิเคราะห์ในครั้งนี้อยู่ แต่ผมขอยืนยันว่า นั่นไม่ได้ไปบิดเบือนมาตรฐานการรีวิวของผมแต่อย่างใดครับ รับรองได้ … ส่วนใครที่ยังไม่เชื่อใจ ก็ลองอ่านต่อไป และอาจพิจารณาเลือกอ่านตาไว้ตา (ก็ประมาณฟังหูไว้หูนั่นแหละ) ได้ครับ

ประเด็นแรก เทียบเรื่องระบบปฏิบัติการ

iOS มี App Store ที่มี App มากกว่า 3 แสน แล้ว … App ดีๆ มีเยอะมาก ส่วนหนึ่งต้องบอกว่าเพราะ Apple วางโมเดลธุรกิจมาดี และ App สามารถทำเงินได้เยอะมาก (ต่อให้ตั้งราคาไว้แค่ $0.99 แต่เกมอย่าง Doodle Jump หรือ Angry Birds ก็ทำเงินให้ผู้พัฒนาเป็นล้านๆ มาแล้ว) เลยทำให้มีความพยายามพัฒนา App แจ่มๆ มากะโกยเงินกันเยอะ

Android ก็มี Android Market ที่เดี๋ยวนี้ก็พัฒนาขนาดที่ว่า เลือกว่าจะโหลด App ตัวไหนจากเว็บ แล้วกดส่งไปที่มือถือของเราตรงๆ ได้เลย … จำนวน App ก็มีมากกว่า 2 แสนแล้ว เพียงแต่ว่า App ที่แจ่มแหล่มเป็ดยังมีน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับ iOS ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเพราะโอกาสในการทำเงินยังน้อยอยู่ เนื่องจากระบบชำระเงินของ Google ที่เรียกว่า Google CheckOut นั้นยังไม่ครอบคลุมเท่าไหร่ (แน่นอนว่าในไทยก็ยังไม่รองรับ)

ในภาพรวม หาก Android สามารถซื้อขาย App ได้เหมือนกับ App Store ของ iOS แล้วละก็ ในเร็ววันก็คงจะสูสีกับ App Store ของ iOS ละครับ แต่ ณ ตอนนี้ iOS ยังได้เปรียบเรื่อง App อยู่พอสมควรครับ

ด้านการอัพเดต ด้วยความที่ Apple เป็นผู้ผลิตและจำหน่าย iPhone/iPad/iPod Touch แต่เพียงผู้เดียวเลย ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะมีอุปกรณ์ตัวไหนอัพเดตไม่ได้ เว้นซะแต่ว่ามันจะเก่าเกิน 3 ปีไปแล้ว (หากเกิน 1 ปีไป ก็จะอัพเดตได้ แต่จะได้คุณสมบัติใหม่ๆ ไม่ครบถ้วน) … ส่วน Android นั้น เพราะว่าผู้ผลิตแต่ละรายจะปรับแต่ง ROM ของตัวเองขึ้นมาอีกทอด เลยทำให้การอัพเดตนั้นนอกจากจะขึ้นอยู่กับว่า Google จะทำออกมาหรือไม่ (ซึ่งไม่ต้องกลัวหรอกครับ Google ขยันอัพเดตมาก) แล้ว ยังต้องอยู่ที่ว่าผู้ผลิตจะทำ ROM ใหม่ขึ้นมาด้วยรึเปล่า

ประเด็นที่สอง สเปกฮาร์ดแวร์

iPhone 4, iPad และ iPod Touch 4th Gen นั้นใช้ CPU A4 1GHz ขนาดจอก็ 3.5 นิ้ว (640×960 พิกเซล) และ 9.7 นิ้ว (1024×768) อัตราส่วนหน้าจอ 4:3 …

• ถ้าเป็น iPhone 4 จะมี มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช และกล้องหน้าความละเอียด 3 แสนพิกเซล มีให้เลือก 2 ความจุคือ 16GB และ 32GB
• ถ้าเป็น iPod Touch 4th Gen จะมีกล้องดิจิตอลความละเอียด 7 แสนพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 3 แสนพิกเซล มีให้เลือก 3 ความจุ คือ 8GB, 32GB และ 64GB
• ถ้าเป็น iPad จะมีให้เลือก 2 แบบคือ WiFi-Only กับ 3G+WiFi และมีให้เลือก 3 ความจุคือ 16GB, 32GB และ 64GB

ส่วน Android นั้นมีให้เลือกมากมายหลากหลายสเปกสุดๆ ครับ ตั้งแต่จอเล็กขนาด 2.8 นิ้วไปจนถึง 10.1 นิ้วเลยทีเดียว ด้าน CPU ก็มีตั้งแต่ 600MHz เรื่อยไปจนถึง 1GHz และเดี๋ยวนี้ก็มีแบบ Dual-core CPU มาแล้วด้วย

Android ส่วนใหญ่จะมีจุดอ่อนตรงที่มีเนื้อที่ลงโปรแกรมในตัวเครื่องค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่ไม่เกิน 2GB จะมีก็ Samsung Galaxy S ที่มีรุ่น 8GB และ 16GB ให้เลือก หรือไม่ก็ต้องเป็นพวกแท็บเล็ตอย่าง Samsung Galaxy Tab หรือ Dell Streak 7 ที่จะมี Internal Storage ให้ 16GB … แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีกันพื้นที่ไว้ให้ลง App ได้ 2 GB ครับ ที่เหลือจะทำหน้าที่เป็นเหมือน SD Card ไป

ประเด็นที่สาม ประสบการณ์การใช้งาน

ถ้าว่ากันเรื่องความลื่นไหลในการใช้งานแล้ว iOS ทำได้ดีกว่า Android ครับ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับ Apple ที่ล็อกสเปกอะไรหลายๆ อย่างเอาไว้ซะจนควบคุมประสบการณ์ของผู้ใช้งานได้ค่อนข้างดีเยี่ยม … ไม่ต้องกลัวว่าดาวน์โหลด App มาแล้วจะใช้บนอุปกรณ์ของตนไม่ได้ (เว้นแต่จะอายุการใช้งานเกิน 2 ปี และไม่มีฮาร์ดแวร์บางอย่างที่ App นั้นต้องการ เช่น iPod Touch ไม่มีแฟลช ดังนั้นจะเล่น App Flashlight ก็คงไม่ได้จริงไหม)

แม้ Android จะไม่สามารถให้ประสบการณ์ในการใช้งานได้ดีเทียบเท่า การรัน App นั้นก็ต้องดูว่าอุปกรณ์ที่คุณใช้อยู่นั้นสเปกรัน App ไหวไหม … แต่ Android ก็มีจุดที่เสริมเข้ามาคือความเป็นระบบเปิดที่ให้ประสบการณ์ในการใช้งานคนละแบบกับ iOS โดยเฉพาะในส่วนของการเชื่อมโยงระหว่าง App ต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น เปิดเว็บแล้วอยากแชร์เว็บให้กับเพื่อนๆ ผ่านทางทวิตเตอร์ ก็ไม่ต้องไปหวังว่าเว็บจะทำปุ่มแชร์บนทวิตเตอร์ เป็นต้น

ประเด็นสุดท้าย iOS หรือ Android ดี?!?

สุดท้ายแล้ว จะเลือกระบบปฏิบัติการอะไรนั้น ผมว่ามันนานาจิตตังมากๆ … อย่างผมเนี่ย โดยส่วนตัวผมชอบ Android เพราะผมชอบที่จะท่องเว็บแล้วสามารถแชร์ข้อมูลให้เพื่อนของผมได้สะดวก และชอบที่จะมีทางเลือกด้านสเปกมากกว่า และสามารถปรับแต่งตัวระบบปฏิบัติการได้มากกว่า ซึ่งเพื่อนของผมหลายคนก็เลือก Android ด้วยเหตุผลนี้

เพื่อนผมของผมอีกหลายๆ คน เลือกใช้ iOS ก็เพราะว่ามันใช้ง่าย (ในความคิดของเขา) มี App ต่างๆ ให้เลือกเยอะแยะไปหมด สามารถเลือกซื้อเลือกหามาติดตั้งได้ โดยไม่ต้องไป ร๊งไปรู้ท (หมายถึงการแฮกเครื่อง Android เพื่อให้สามารถใช้คุณสมบัติ หรือ App บางอย่างที่ปกติไม่สามารถใช้ได้ … คล้ายๆ กับ Jailbreak ระบบปฏิบัติการ iOS นั่นแหละครับ)

บางคนเลือก Android เพราะมียี่ห้อและรุ่นราคาประหยัดให้เลือกสอยมาใช้ เหมาะกับปริมาณเม็ดเงินที่มีอยู่ในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี ในขณะที่อีกหลายคนก็เลือก iOS เพราะว่าเวลาขายต่อมือสองมันราคาไม่ตกมาก (ทั้งนี้เพราะว่า Apple ออกรุ่นใหม่ทุกๆ ปีเท่านั้น เลยไม่มีของใหม่มากดดันราคามากมายเท่า Android) และอีกบางคนที่เลือก iOS เพราะใช้แล้วโก้หรู (ดูอย่าง iPhone 4 สิ แย่งกันจะเป็นจะตายให้ได้ ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 ก็ไปต่อคิวรอซื้อตั้งแต่ตีสาม)

แล้วคุณล่ะ? เหตุผลในการเลือก iOS หรือ Android คืออะไร?